“เป็นสิวที่หลัง” กลัวผิวพัง ควรรับมือและดูแลอย่างไรดี ?

หากพูดถึง 'สิว' เชื่อว่าเป็นปัญหาผิวที่คงไม่มีใครอยากเผชิญ เพราะไม่ว่าจะขึ้นบนผิวหน้าหรือผิวกาย ก็ล้วนสร้างความรำคาญใจและฝากร่องรอยไม่พึงประสงค์เอาไว้ได้ทุกที่ วันนี้เราจึงจะมาเจาะลึกถึงปัญหาเป็นสิวที่หลัง ทั้งสาเหตุการเกิดและวิธีแก้ไข เพื่อช่วยให้คุณทวงคืนผิวบริเวณแผ่นหลังให้กลับมาเนียนใสเหมือนเคย

สิวที่หลังมีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร ?

  สิว ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดได้ในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะการเป็นสิวที่หลัง ที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น แถมยังเกิดได้ในหลากหลายลักษณะ ไม่ต่างจากสิวบนใบหน้าที่คุ้นชินกัน โดยสามารถสรุปได้ 6 ประเภทหลัก ดังนี้

• สิวหัวขาว : เป็นการอุดตันบริเวณรูขุมขนที่เกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีลักษณะที่สังเกตได้คือ จะมีจุดสีขาวเล็กๆ นูนขึ้นมาเล็กน้อย สิวชนิดนี้มักไม่อักเสบและไม่เจ็บ

• สิวหัวดำ : มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวขาว แต่ส่วนบนของรูขุมขนเปิดออก ทำให้สีของไขมันและเซลล์ผิวที่อุดตันเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสัมผัสกับอากาศ โดยสิวชนิดนี้จะมองเห็นเป็นจุดดำเล็กๆ บนผิวหนัง

• สิวหัวหนอง : การเป็นสิวที่หลังในลักษณะนี้ เกิดจากการอักเสบของสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำ มีลักษณะเป็นตุ่มแดงที่มีหัวสีขาวหรือเหลือง โดยสิวประเภทนี้จะมีหนองสะสมอยู่ และมักมีอาการเจ็บเมื่อสัมผัส

• สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ : เป็นสิวขนาดใหญ่ที่เกิดจากการอักเสบลึกใต้ผิวหนัง มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง นูน และแดง มักมีอาการเจ็บปวดมาก สิวชนิดนี้อาจทิ้งรอยแผลเป็นได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

• สิวตุ่มแดง : เป็นสิวที่เกิดจากการอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีแดง แต่ไม่มีหัวหนอง สิวชนิดนี้อาจมีอาการคันหรือเจ็บเล็กน้อย

• สิวเสี้ยน : เป็นลักษณะของสิวที่เกิดบริเวณรูขุมขน ที่อุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่ยังไม่เกิดการอักเสบ มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีดำหรือสีเทา มักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก ซึ่งบริเวณแผ่นหลังก็เป็นหนึ่งในจุดที่พบได้บ่อย 

สาเหตุการเป็นสิวที่หลัง เรื่องสำคัญที่ควรรู้

  สำหรับสาเหตุของการเป็นสิวที่หลังนั้น สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้

1. การเสียดสีระหว่างผิวและเสื้อผ้า

  การสวมใส่เสื้อผ้าที่คับหรือหนาเกินไป อาจทำให้เกิดการเสียดสีกับผิวหนัง จนเกิดการระคายเคืองและอุดตันของรูขุมขนในที่สุด โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น หลังส่วนบนที่มักจะมีการเสียดสีกับเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บ่อยครั้ง 

2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

  ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น การตั้งครรภ์ หรือช่วงมีประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ส่งผลให้เกิดสิวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณผิวหน้าและแผ่นหลังก็ตาม

3. กรรมพันธุ์

  ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนทำให้เกิดสิวได้ง่าย หากคนในครอบครัวมีปัญหาเป็นสิวที่หลัง สิวอักเสบ หรือเป็นสิวเรื้อรัง คุณก็อาจมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหานี้ได้เช่นกัน 

4. สภาพอากาศ

  อากาศร้อนและชื้นสามารถกระตุ้นการผลิตเหงื่อและน้ำมันบนผิวหนังได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนเป็นส่วนมาก จึงทำให้ง่ายต่อการเกิดสิว โดยเฉพาะการเป็นสิวที่หลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่มักสัมผัสกับเสื้อผ้าที่ชื้นเหงื่อโดยตรง

5. เหงื่อและสิ่งสกปรก

  สืบเนื่องจากสภาพอากาศที่กระตุ้นทำให้เกิดการผลิตเหงื่อและน้ำมันบนผิวหนัง ซึ่งหากยิ่งปล่อยให้เหงื่อและสิ่งสกปรกสะสมบนผิวหนังเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออกมาก ก็อาจนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว เพราะฉะนั้น ควรทำความสะอาดร่างกายหลังจากร่างกายเสียเหงื่อเป็นประจำด้วย 

6. ความเครียดสะสม

  นอกจากปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมแล้ว ความเครียดก็สามารถทำให้เป็นสิวที่หลังได้ เพราะความเครียดจะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งจะไปกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนังและลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดสิวได้ง่ายขึ้น

7. การรับประทานอาหาร

  แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและการเกิดสิวยังเป็นที่ถกเถียงกันในวงการแพทย์ แต่ก็มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ JAMA Dermatology ที่ชี้ให้เห็นว่า อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม และอาหารที่มีไขมันสูง ก็อาจมีส่วนกระตุ้นทำให้เกิดสิวในบางคนอีกด้วย

วิธีแก้สิวที่หลังอย่างมีประสิทธิภาพ

  เพราะการเป็นสิวที่หลังอาจทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจ ในขณะเดียวกันก็สร้างความเจ็บปวดจากอาการอักเสบ ซึ่งในการดูแลปัญหาสิวที่หลัง สามารถทำได้ทั้งหมด 3 แนวทาง ที่ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอ แต่รับรองเลยว่า หากทำได้จะช่วยรักษาให้ผิวกลับมาเนียนนุ่ม ไร้สิวและรอยแผลได้ 

1. ทำความสะอาดผิว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาสิวที่หลัง

  การรักษาความสะอาดของผิวหนังเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด โดยคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นสิวที่หลังก็คือ การอาบน้ำอุ่นหลังจากเหงื่อออกมากหรือทำกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสกปรก เพื่อเป็นการชำระล้างเหงื่อและไขมันบนผิวให้ออกไป ก่อนจะใช้เจลอาบน้ำหรือสบู่ก้อนที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและปรับสมดุลให้ผิวชุ่มชื้น ก่อนล้างออกให้สะอาด 

  สำหรับใครที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิวที่เหมาะสมกับปัญหาการเป็นสิวที่หลัง Kaff & Co. ขอแนะนำ 2 ผลิตภัณฑ์ ทั้งเจลอาบน้ำดอกคำฝอยและใบบัวบก และสบู่ก้อนดอกคำฝอยและใบบัวบก ที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ พร้อมคุณค่าในการบำรุงผิวอย่างดอกคำฝอย ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ และดอกเกลือที่อ่อนโยนต่อผิว ช่วยลดสิวที่หลังได้อย่างอ่อนโยน ทั้งยังช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

2. ใช้ยารักษาสิวและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่อ่อนโยน

  หลังจากทำความสะอาดผิวแล้ว ให้ใช้ยารักษาสิวเฉพาะที่ เพื่อช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่ หากไม่รู้ว่าเป็นสิวที่หลังใช้อะไรหาย ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ กรดซาลิไซลิก หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ทาบริเวณที่เป็นสิว หลังจากนั้นใช้โลชั่นบำรุงผิวกายที่มีความอ่อนโยนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นหลังการใช้ยารักษา 

  โดยผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนจาก Kaff & Co. อย่าง โลชั่นดอกคำฝอยและใบบัวบก สำหรับผิวกาย ที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติกว่า 96% พร้อมมอบความชุ่มชื้น เสริมปราการป้องกันผิว และลดอาการอักเสบ ระคายเคือง ให้ผิวกลับมาสดใส ดูสุขภาพดีได้ในทุกๆ วัน

3. เข้ารับการตรวจและรักษาสิวโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ

  หากสิวที่หลังของคุณรุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยตนเอง การไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและความรุนแรงของสิว พร้อมทั้งวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริง และอาจมีการสั่งยาทาเฉพาะที่ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่ขายทั่วไป เช่น เรตินอยด์ หรือยาปฏิชีวนะชนิดทา รวมถึงการทำทรีทเม้นท์ร่วมด้วย เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

จบปัญหาเป็นสิวที่หลัง แค่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำและสบู่รักษาสิวที่หลัง สูตรดอกคำฝอยและใบบัวบก ร่วมกับโลชั่นเพื่อการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกจาก Kaff & Co. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 095-973-5015 และ LINE Official @kaffandco หรือเลือกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นได้ที่เว็บไซต์ ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้เลย  

ข้อมูลอ้างอิง

1. ทำความรู้จักกับสาเหตุของ “สิวที่หลัง” เกิดจากอะไรกันแน่ ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567. จาก https://skinx.app/content/acne/back-acne 

2. Back Acne. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567. จาก https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/22756-back-acne