อยากบอกลาปัญหาผิวหน้าฝน ควรรับมืออย่างไร?

Healthy Hair & Scalp Secrets

อยากบอกลาปัญหาผิวหน้าฝน ควรรับมืออย่างไร?

ช่วงเวลาหน้าฝนของประเทศไทยนั้นยาวนาน ยิ่งหากเข้าสู่ช่วงมรสุมก็อาจลากยาวไปถึงสี่ห้าเดือนได้เลยทีเดียว และถึงแม้จะมีอากาศเย็น ๆ ชื้น ๆ แบบที่ใครหลายคนชื่นชอบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฤดูฝนก็มักสร้างปัญหาผิวได้อย่างคาดไม่ถึง ทำให้การดูแลผิวหน้าฝนเป็นหนึ่งในความท้าทายที่หลาย ๆ คนต่างก็ให้ความสำคัญ เพราะทุกครั้งที่อากาศแปรปรวนจากฤดูที่ผลัดเปลี่ยน เป็นเหตุให้ผิวของคนเราไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จนทำให้ปราการป้องกันผิวอ่อนแอลง และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาไปดูกันว่าผลกระทบอะไรบ้างที่จะเกิดกับผิวในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่หน้าฝน และควรมีวิธีรับมืออย่างไรให้สภาพผิวกลับมาชุ่มชื้นเหมือนอย่างที่เคยเป็น

ผลกระทบจาก "รอยต่อของฤดูกาล" ปัญหาท้าทายของการดูแลผิวหน้าฝน

รู้ไหมว่าอากาศที่เย็นชื้นในช่วงฤดูฝน เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้ผิวมีแนวโน้มขาดน้ำได้สูง ลองมาดูถึงสาเหตุกันดีกว่าปัญหาผิวหน้าฝน ที่ทำให้ผิวขาดน้ำเกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง

  • ความชื้นที่มากเกินไป จะทำให้น้ำและน้ำมันในผิวถูกดึงออกมาจากผิว จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวลดลง ทำให้ผิวอ่อนแอ และอาจเกิดสภาวะผิวขาดน้ำได้ จนนำไปสู่สภาพผิวที่หยาบกร้านจนรู้สึกระคายเคือง
  • สภาพแวดล้อมที่เปียกแฉะและความชื้นในช่วงหน้าฝน มีส่วนทำให้เราละเลยการทาครีมบำรุง ซึ่งการไม่ใส่ใจทาครีมบำรุงเป็นประจำอาจส่งผลทำให้ปราการป้องกันผิวอ่อนแอลงได้
  • การอาบน้ำอุ่นหนีความเย็นในหน้าฝน ด้วยอุณหภูมิน้ำที่สูง และหากใครใช้เวลาในการอาบที่ค่อนข้างนาน ก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง และลอกเป็นขุยได้

3 ปัญหาผิวหน้าฝนที่มีแนวโน้มเกิดได้มากที่สุด

ผิวขาดน้ำ ภาวะปัญหาผิวที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นหรือขาดน้ำ สามารถเกิดได้กับทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีผิวสุขภาพดี ผิวแห้ง ผิวผสม หรือแม้แต่คนผิวมัน ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าฝนอย่างผิวขาดน้ำนั้น มาจากความชื้นส่วนเกินในอากาศที่มากเกินไป จนไปดึงเอาน้ำหรือน้ำมันใต้ผิวออกมา จนทำให้ผิวดูแห้ง และดูไม่สดใสในที่สุด ผิวอักเสบ ความชื้นที่เพิ่มขึ้นยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าฝนอย่างเรื่องของผิวอักเสบได้อีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะความชื้นส่วนเกินในอากาศจะเข้าไปทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน จนทำให้เกิดสิว รอยแดง ผื่นคัน และเกิดอาการระคายเคืองอื่น ๆ ตามมาได้ ผิวผื่นแพ้ เพราะความชื้นในช่วงฤดูฝน เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและสารก่อภูมิแพ้มากที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย แดงง่าย จะเกิดปัญหาผิวในช่วงฤดูฝนอยู่เป็นประจำ โดยอาจจะมีผื่นแพ้ขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีอาการผื่นลมพิษ ผื่นคัน หรือผิวเกิดความระคายเคือง

ดูแลผิวหน้าฝนด้วยสกินแคร์ สร้างปราการผิวให้พร้อมในทุกสถานการณ์

เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกายที่มีมากถึง 70% จึงไม่แปลกที่ระดับของ “น้ำ” ในผิวจะมีผลต่อความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว ซึ่งหากเราดูแลให้ผิวอิ่มน้ำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะฤดูไหนผิวของเราก็จะห่างไกลจากปัญหาผิวได้

มาเริ่มดูแลผิวในทุก ๆ ฤดูอย่างถูกวิธี ด้วยการเลือกใช้โลชั่นที่มีส่วนช่วยในการฟื้นบำรุงและสร้างเกราะป้องกันผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมป้องกันความเสื่อมของผิวได้ในระยะยาว ทั้งจากสภาวะขาดน้ำ ผิวหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ ตลอดจนความเหี่ยวย่นที่เป็นสัญญาณของวัยที่เพิ่มมากขึ้น แต่จะเลือกโลชั่นอย่างไรให้เหมาะกับเราสภาพอากาศบ้านเราโดยเฉพาะหน้าฝน แถมยังเป็นโลชั่นที่คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ เรามีเคล็ดลับการเลือกโลชั่นที่ใช่มาฝากกัน

ดูแลผิวหน้าฝนอย่างไรดี ให้ฟื้นบำรุงได้อย่างตรงจุด

เคล็ดลับการเลือกโลชั่น สำหรับดูแลผิวหน้าฝน

  • เลือกโลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมบางเบา

เมืองไทยอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้น ยิ่งเลือกโลชั่นผิดยิ่งทำให้ไม่สบายตัว ดังนั้น ทริกการเลือกง่าย ๆ แนะนำให้เลือกซื้อโลชั่นที่มีตัวเทสเตอร์ หรือมองหาสูตรที่บางเบา ซึมไว และไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สบายตัวในระหว่างวัน

  • เลือกส่วนผสมที่อ่อนโยน ที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว

เพราะการเลือกโลชั่นที่สามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก จะช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยอาจเลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมของ เซราไมด์ ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว, Niacinamide (วิตามินบี 3) ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดี พร้อมป้องกันผิวถูกทำร้ายจากรังสี UV, สารสกัดดอกคำฝอย ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงและฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง, สารสกัดใบบัวบก เพื่อช่วยเสริมสร้างปราการปกป้องผิวและคอลลาเจน รวมถึงสารสกัดจากว่านหางจระเข้ออร์แกนิก ที่ช่วยลดการอักเสบ พร้อมปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองง่าย เป็นต้น

  • เลือกโลชั่นที่มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว

นอกจากความชุ่มชื้นที่ควรได้รับแล้ว การดูแลผิวหน้าฝนยังควรมีตัวช่วยที่ให้ได้ทั้งการบำรุงและปลอบประโลมผิวไปพร้อมกัน เพราะบางครั้ง ผิวของคุณอาจต้องเจอกับการสัมผัสของสารก่อภูมิแพ้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากเราเลือกใช้โลชั่นที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ที่มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว ก็จะช่วยลดได้ทั้งอาการอักเสบ และอาการแพ้ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • มีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันแดด

หน้าฝนไม่ได้แปลว่าไม่มีแดด จึงไม่ควรละเลยการใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมป้องกันผิวจากแสงแดดและรังสี UV ต่าง ๆ อีกทั้งยังจะต้องช่วยฟื้นบำรุงผิวไปพร้อม ๆ กันด้วย เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ

ประโยชน์ของการใช้โลชั่นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวกาย

  • ช่วยสร้างสมดุลให้ผิว ยิ่งปราการป้องกันแข็งแรงก็ยิ่งห่างไกลปัญหาผิว
  • ช่วยเติมความยืดหยุ่น ทำให้ที่เคยแห้งกร้านกลับมากระชับได้อีกครั้ง
  • ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เคยคล้ำเสีย ให้กลับมากระจ่างใส แลดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ

บำรุงผิวกายด้วยโลชั่นดอกคำฝอยและใบบัวบกจาก Kaff & Co.

มองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากความผันผวนของอากาศในหน้าฝน ต้องโลชั่นสำหรับผิวแพ้ง่ายจาก Kaff & Co. ที่จะช่วยมอบความชุ่มชื้นและซ่อมแซมผิวได้อย่างอ่อนโยน พร้อมเปลี่ยนผิวหมองคล้ำให้ดูสดใสขึ้น ด้วยคุณค่าความเข้มข้นของส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 94% ทั้งสารสกัดดอกคำฝอย ใบบัวบก และว่านหางจระเข้ออร์แกนิก

มองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ พร้อมดูแลและสร้างปราการให้ผิวแข็งแรงได้ในทุก ๆ วัน ต้องโลชั่นดอกคำฝอยและใบบัวบกจาก Kaff & Co. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 095-973-5015 หรือสามารถเลือกซื้อสินค้าในราคาโปรโมชั่นได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา

แชร์สาระน่ารู้นี้
ให้เราช่วยเหลือคุณ ?